5 วิธีลดอัตราห้องว่าง ทำอย่างไร ธุรกิจบ้านเช่า

ธุรกิจ - การลงทุน

ในการลดอัตราห้องว่างนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คนทำบ้านเช่าต้องการรู้ และเป็นที่แน่นอนว่า การทำบ้านเช่า ช่วงเวลาที่ทรัพย์สินอย่างบ้านเช่า ไม่สามารถสร้างรายได้ ถือเป็นการเสียโอกาสที่น่าเสียดายมากที่สุด ถึงแม้ว่าคุณจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่จะดีกว่าไหม หากเรามีวิธีป้องกันเบื้องต้น ไว้รับมือกับสถานการณ์มีห้องว่างในการปล่อยเช่าเกิดขึ้น ในวันนี้เราจึงมี 5 วิธีลดอัตราห้องว่าง ที่คนทำบ้านเช่าต้องรู้ มาฝากกันครับ ตามเรามาได้เลยครับ

1. จัดทำระเบียบการเช่าบ้านให้ชัดเจน

โดยจะเป็นผลดีต่อทั้งผู้เช่า และเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ย้ายเข้า ย้ายออก เช่น ระยะเวลาในการเช่าขั้น 3 เดือนขึ้น้ไป หากย้ายออกก่อนหมดสัญญา เจ้าของบ้านมีสิทธิ์ยึดเงินค่ามัดจำ เพื่อเป็นการลดอัตราห้องว่าง จากการย้ายออกของผู้เช่า ในช่วงเวลาที่สั้นเกินไป และต้องแจ้งวันย้ายออกล่วงหน้า 30 วัน เป็นอย่างต่ำ เพื่อให้เจ้าของบ้านเช่าได้มีเวลาหาผู้เช่ารายใหม่ได้ เป็นต้น

2. มีแบบฟอร์มการตรวจทรัพย์สิน

เพื่อเป็นการเช็คสภาพ และการใช้งานทรัพย์สินภายในห้องเช่า ต้องทำทุกครั้งที่ผู้เช่าทั้งย้ายเข้า และย้ายออก โดยการชี้แจงกับผู้เช่าอย่างชัดเจน หากตรวจพบความเสียหายใด ๆ ต่อทรัพย์สิน เมื่อมีคนเช่าย้ายออก ดังนั้น เงินมัดจำจะกลายเป็นเงินเสียค่าปรับไปทันที ในขณะเดียวกัน ผู้ปล่อยเช่า ต้องมีความเป็นธรรมกับผู้เช่ารายใหม่ด้วยการ ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย กลับมาใช้งานได้ดังเดิม

3. หาผู้เช่ารายใหม่ ให้ได้ก่อนผู้เช่ารายเก่าออก

ในเรื่องของการหากผู้เช่ารายใหม่ ก่อนให้ผู้เช่ารายเก่าจะย้ายออก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากที่สุด อาจใช้บริการจากนายหน้า หรือขึ้นป้ายประกาศ จะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่ใครก็สามารถทำได้ ซึ่งวิธีพอจะช่วยลดอัตราห้องวางได้เช่นกัน อย่างน้อยยังดีกว่าการรอให้ผู้เช่าเดินมาหา

4. ท่องไว้ “เวลาคือเงิน”

ในการปล่อยห้องว่างให้เสียหาย และยังไม่พร้อมให้บริการ นั่นคือการ เสียโอกาส ที่แพงมากยิ่งนัก นอกจากจะบำรุงรักษา และซ่อมแซมกลับมาใช้งานให้ได้เหมือนเดิม เพราะในบางครั้ง การพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในขณะที่บ้านเช่าใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และยิ่งหากค่าเช่าในระดับเดียวกัน แต่สภาพบ้านต่างกัน อาจไม่ต้องแปลกใจว่า บ้านเช่าของเราจะมีอัตราห้องว่างเพิ่มมากขึ้น

5. พื้นที่มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง

เมื่อธุรกิจบ้านเช้าของคุณ อยู่ใน “พื้นที่มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง” เช่น มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน หรือห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้น จะเป็นไปได้ไหมว่า ผู้เช่ารายได้ระดับกลาง ที่ต่างแออัดกันอยู่ในตัวเมือง และจะย้ายออกมาอยู่ชาญเมือง ในสภาพบ้านเช่า ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบค่าเช่า ที่ถูกลงกว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากมีความแตกต่างไม่ได้มากนัก อีกทั้งยังถูกชดเชนด้วยการเดินทางสะดวกจากรถไฟฟ้า สิ่งนี้น่าจะเป็นโอกาสที่เจ้าของบ้านเช่า จะดึงกลุ่มลูกค้าใหม่เหล่านี้ เพื่อเป็นการเพิ่มจุดขาย และสามารถลดอัตราห้องว่างได้