ลดอัตราผู้เช่าย้ายออก ต้องทำอย่างไร ธุรกิจบ้านเช่า

ธุรกิจ - การลงทุน

อย่างที่เราเคยกล่าวมาแล้วนั้น ในเรื่องของผู้เช่าย้ายออกนั้น เป็นตัวปัญหาสำคัญ ที่ทำให้กำไรของผู้ปล่อยเช่าลดลง อาจดูเหมือนว่า เป็นผลกระทบเพียงเล็กน้อย แต่หากนับรวมเป็นรายปีแล้ว ห้องว่างมีเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 2 – 3 ห้องในทุกเดือน คุณจะเริ่มเห็นภาพว่า คุณจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้แล้ว แม้ในความเป็นจริง จะไม่มีทางแก้ปัญหานี้ไปได้ไปอย่างหมดจด แต่อย่างน้อยคุณควรต้องมีเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ไว้บ้าง

ในวันนี้เราจึงมีแนวทางเลือก เพื่อลดอัตราการย้ายออก ที่คนทำธุรกิจบ้านเช่าต้องรู้ เป็นแนวทางเบื่องต้น ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจบ้านเช่า และสามารถรักษาผู้เช่าปัจจุบันไว้ได้ ดังนี้

1. มีการตลาดอย่างสมบูรณ์แบบ

ยิ่งคุณสามามารถทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเท่าไร คุณภาพของผู้เช่าก็มากขึ้นตามเท่านั้น ดังนั้นในการทำตลาดทั้งเชิงรุก และเชิงรับ ย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่า ในการตลาดเชิงรับ เช่น จ้างเจ้าหน้าที่คุณภาพมาดูแลลูกค้าที่ walk in เข้ามาในร้าน ในการตลาดเชิงรุก เช่น การปิดป้ายประกาศ ลงสื่อโฆษณาออนไลน์ โดยมุ่งเน้นการตลาดที่คิดว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราให้มากที่สุด เช่น การแจกใบปลิวหน้าสถานศึกษา เป็นต้น

2. พูดคุยด้วยคำถามเพื่อเก็บข้อมูล

ลักษณะการเช่าบ้านนั้น เป็นไปได้ทั้งในรูปแบบการเช่าระยะสั้น และระยะยาว คำถามแรกที่คุณควรพูดคุยคือ คุณจะย้ายเข้าเมื่อไร หากผู้เช่าบอกว่า ภายใน 3 วันนี้ แสดงว่ามีความเร่งด่วนมาก มีความเป็นไปได้ว่า เขาไม่มีการวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้าเลย เพราะโดยปรกติแล้ว คนเราจะใช้เวลา 1 – 2 สัปดาห์ในการหาที่อยู่ใหม่ คำถามต่อไปคือ ทำไมคุณจึงย้ายที่พัก หากเหตุผลดูไม่เข้าท่า อาจส่อแววเป็นผู้เช่าที่มีแนวโน้มไม่ดี

3. คัดเลือกลูกค้าที่น่าเชื่อถือ

เพื่อเป็นการรักษาธุรกิจบ้านเช่าของคุณให้อยู่รอดปลอดภัย คุณต้องเช็คข้อมูลลูกค้าให้รอบครอบมากที่สุด เพราะสิ่งที่เป็นเรื่องเสี่ยงในการทำธุรกิจบ้านเช่าคือ ปัญหาลูกบ้านหนี ปัญหาบ้านเช่าเสียหาย ปัญหาลูกบ้านไม่จ่ายค่าเช่า เป็นต้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงจำเป็นต้องเก็บค่าเช่าล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพื่อเป็นการสำรองเรื่องเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้

4. มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

คงไม่มีใครที่อยากเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ตลอดเวลา จริงไหม? ดังนั้น เงื่อนไขในสัญญาบ้านเช่าก็เช่นเดียวกัน จึงควรที่จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝั่งลูกบ้าน และฝั่งผู้ให้เช่า อีกทั้งยังต้องให้เวลาผู้เช่าทำความเข้าใจรายละเอียดเงื่อนไขสัญญาเสียก่อน ก่อนจะตกลงเซ็นทุกครั้ง