ปี 2020 ยุคของปลาเล็กและเร็ว จะเอาตัวรอดอย่างไรในยุคดิจิตอล

ธุรกิจ - การลงทุน

ปี 2020 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดเจนสำหรับวิถีชีวิตผู้คนซึ่งส่งผลกับวิถีการทำงาน ที่แพลตฟอร์มและค่าความนิยมจะถูกเปลี่ยนรูปแบบมากยิ่งขึ้น นักธุรกิจจึงควรสังเกตการณ์ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง เพื่อจะได้วางกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องเพื่อสร้างความสำเร็จ

1.ไม่นิยมมีออฟฟิศอีกต่อไป
ธุรกิจ SME ต่างๆ ไม่นิยมมีออฟฟิศหรือสำนักงานใหญ่โต แต่นิยมสร้างออฟฟิศออนไลน์ในรูปแบบของเว็บไซต์ หรือใช้ Co-Working space และ Home Office ทดแทนการลงทุนสร้างสำนักงานที่ส่งผลให้ต้นทุนในการสร้างธุรกิจสูง เหตุนี้ส่งผลให้ แต่ละธุรกิจสามารถสร้างตัวตนขึ้นมาได้ง่าย เพียงมีเว็บไซต์ แฟนเพจ ยูทูบ Line IG หรือช่องทางสื่อสารออนไลน์ต่างๆ เพื่อทำการตลาดและการขายไปยังผู้บริโภคก็เพียงพอ

2.SME ผันตัวเองสู่การเป็นปลาเล็กและเร็ว
“ปลาเล็กและเร็ว” หมายถึง การมีพนักงานประจำในองค์กรที่น้อยมาก บางธุรกิจมีเพียงเจ้าของผู้ก่อตั้งเพียงคนเดียวก็สามารถดำเนินธุรกิจได้แล้ว หรือหากมีปริมาณงานที่มากขึ้นก็สามารถมีเลขาฯ หรือประสานงานไว้คอยช่วยเหลือธุรการในสำนักงาน หรือร้านค้าได้อย่างลงตัว

3.ใช้ Outsource มากขึ้น
นับว่าเป็นยุคที่ทุกธุรกิจไม่นิยมสร้างทุกอย่างเพื่อมาแข่งขันกันเอง แต่หลายธุรกิจนิยมที่จะสั่งสินค้าและบริการผ่าน Outsource หรือคู่ค้า ให้ผลิตสินค้าให้ แล้วนำมาจัดจำหน่าย บริหารการขาย การตลาดเป็นหลัก ซึ่งทางเลือกนี้ ทำให้ได้สินค้ามีคุณภาพจากผู้ที่เชี่ยวชาญกว่า ในต้นทุนที่ต่ำกว่า โดยไม่ต้องเสียเวลาและเงินทุนในการศึกษาเรียนรู้ และสร้างเกมการแข่งขันในธุรกิจที่เหนื่อยมากเกินไป เรียกได้ว่า “เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร จับมือรวยไปด้วยกัน”

4.นิยมจ้าง Freelance มากกว่าพนักงานประจำ
จากที่หลายองค์กรต้องการเป็นปลาเล็ก ทำให้อาชีพฟรีแลนซ์มีการเติบโตสูงจากความต้องการในตลาด ประกอบกับที่คนยุคใหม่ นิยมเป็นนายตัวเอง ชอบทำงานอิสระ และไม่ชอบตอกบัตรเข้าทำงาน การที่องค์กรหันมาจ้างฟรีแลนซ์แทนพนักงานประจำ นับเป็นข้อดีในการเลือกสรรคนที่เหมาะกับงานได้มากที่สุด โดยไม่ต้องผูกมัดระยะยาว เพราะเลือกจ้างและจบงานกันในสัญญาเดียวแบบ Job by Job และที่ดียิ่งไปกว่านั้นคือ SME ไม่ต้องดูแลสวัสดิการพนักงาน ซึ่งทำให้ลดต้นทุนของธุรกิจลงไปได้อีกมาก

5.ทำการตลาดออนไลน์แทนออฟไลน์มากขึ้น
ด้วยยุคที่ผู้คนติดต่อสื่อสารออนไลน์เป็นหลัก กลยุทธ์ในการทำการตลาดจึงถูกปรับเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มเดิมไปมาก จากอดีตที่มักผลิตเครื่องมือทางการตลาดออกมาด้วยต้นทุนที่สูง อาทิ โบรชัวร์สินค้า เมนูสินค้า เอกสารและเครื่องมือการขาย โดยใช้พนักงานขายออกไปพบปะลูกค้า ซึ่งเพิ่มต้นทุนด้านการเดินทางอีกจำนวนมาก ในปัจจุบันเมื่อโลกออนไลน์เติบโต การส่งงานต่างๆ จึงใช้เพียงส่งไฟล์ผ่านอีเมล หรือเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และสื่อออนไลน์รูปแบบดิจิตอลเพียงเท่านั้น ซึ่งลดต้นทุนในการทำธุรกิจให้กับ SME ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โลกยุค 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ ได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว นักธุรกิจและผู้ประกอบการ SME จึงควรอย่างยิ่งที่จะปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์จริงในปัจจุบัน เพื่อสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโต