เปิด 4 เส้นทางกระตุ้นท่องเที่ยวชุมชนในเขื่อนและโรงไฟฟ้า

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

(11 กันยายน 2563) นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว้า กฟผ.ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ภายใต้แนวคิด “พลังงานสร้างไทย กฟผ. สร้าง พลังชุมชน” ด้วยการพัฒนาท่องเที่ยววิถีชุมชนรอบเขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ.

โดยมีแผนจจะดำเนินการในปีนี้ 4 เส้นทาง ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี และโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา ซึ่งจะร่วมกับชุมชนกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย และพัฒนาสินค้าชุมชน เพิ่มช่องทางการจำหน่าย รวมถึงการทำร้านกาแฟ “คุณสายชล” ซึ่งจะช่วยเพิ่มการจ้างงานตามนโยบายของรัฐบาล

“แผนจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ กฟผ.ไม่ม่ต้องการจ้างงานเพียง 1 ปีแล้วจบ แต่ควรจะต่อยอดให้ทำงานได้ต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่า จะมีการจ้างระดับ 10,000 คนแต่ยังอยู่ระหว่างหารือว่าจะทำงานอะไร”

ส่วนงบประมาณสำหรับการจ้างงานนั้นจะมาจากกฟผ.ส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งกำลังพิจารณาอาจจะมาจากภาครัฐ คาดว่า จะไม่มีผลกระทบต่อฐานะการเงินกฟผ.มากนัก แม้ว่าปี 2563 กฟผ.จะมีกำไรที่ปรับลดลงตามยอดการใช้ไฟที่คาดว่าจะลดลง 3% จากปีก่อน

นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กฟผ. กล่าวว่า ร้านกาแฟคุณสายชล นั้น กฟผ.ให้นิยามคำว่า คุณ หมายถึงคุณค่า และสายชล หมายถึงน้ำ ปัจจุบัน กฟผ.ได้เปิดร้านกาแฟดังกล่าวไปแล้ว 8 สาขาตามเขื่อนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ เขื่อนภูมิพล ,สิริกิติ์ ,ศรีนครินทร์,อุบลรัตน์ ,สิรินธร, รัชชประภา,วชิราลงกรณ์ และลำตะคอง โดยสำนักงานใหญ่ บางกรวยเป็นสาขาที่ 9

ขณะเดียวกัน กฟผ.จะอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบธุรกิจ เพื่อจัดทำมาตรฐานให้เป็นแนวเดียวก่อนขยายสาขาเพิ่มเติม คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปี เมื่อชัดเจนจะทำตลาดภายนอกที่อาจร่วมกับพันธมิตรอื่นๆ เช่น สถานีบริการน้ำมัน

ทั้งนี้ ร้านกาแฟกฟผ.ไม่ได้มุ่งเน้นทำกำไรหากแต่เน้นที่จะช่วยเหลือชุมชนที่ส่งเสริมชุมชนปลูกกาแฟแล้วรวบรวมจำหน่าย นำสินค้ามาวางขายในร้าน การจ้างงานก็จะใช้คนในชุมชนส่วนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้คือธุรกิจเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise

นอกจากนี้ กฟผ.ยังจัดตลาดนัดสินค้าชุมชนในพื้นที่กฟผ. สำนักงานใหญ่ นำชุมชนร่วมจัดแสดงสินค้ากับเครือข่ายพันธมิตรในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงช่องทางออนไลน์ในกลุ่มบนเฟสบุ๊ค(Face Book) ที่มีชื่อว่าตลาดนัดเอนจี้ ของดีทั่วไทย “ที่จะมีจิตอาสากฟผ.คอยช่วยชุมชนโพสต์สินค้าให้น่าสนใจ ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจำหน่ายสินค้าชุมชนเพื่อเพิ่มยอดขาย เป็นต้

นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ จะมีความชัดเจนว่าจะนำ 4 เส้นทางที่ร่วมกับกฟผ.เข้าร่วมอยู่ในโครงการ Workation Thailand อย่างไร โดยจะต้องหารือกับโรงแรมและเอกชนผนวกโปรมแกรมนี้เข้าไปเพื่อให้เป็นแพคเกจท่องเที่ยวในราคาพิเศษ จากนั้นจะเสนอภาครัฐดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้จะมีการนำสินค้าท่องเที่ยวกฟผ.ไปรวมไว้ด้วย ซึ่งเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่วางไว้คือกลุ่มคนไทยที่เที่ยวในประเทศ กลุ่มคนไทยที่เที่ยวต่างประเทศให้มาเที่ยวไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย(Expat)