6 เรื่องต้องยอมรับ ธุรกิจบ้านเช่า

ธุรกิจ - การลงทุน

ธุรกิจบ้านเช่า ในยุคปัจุบันนี้ อาจไม่ใช่ธุรกิจเสือนอนกินอีกต่อไปแล้ว จริงอยู่ว่า ในสมัยก่อนจะเป็นธุรกิจที่สุขสบายปลายทาง แต่ตอนนี้ลองย้อนกลับมาดูระหว่างทางกันก่อนดีไหม ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเจอปัญหาอะไรบ้าง วันนี้เราจึงนำ 6 เรื่องที่ต้องยอมรับ หากคุณต้องการทำธุรกิจบ้านเช่า มาฝากกันครับ ว่าเรื่องจริง ปัญหาจริง ไม่ว่าใครที่ก้าวเข้ามาทำธุรกิจนี้ จะช้าหรือเร็ว ต้องพบกับปัญหานี้ ดังนั้นก่อนทำธุรกิจบ้านเช่า อยากให้อ่านบทความนี้ เป็นกรณีศึกษากันนะครับ

1. ไม่มีผู้เช่า

ถือเป็นปัญหาพื้นฐานที่แสนจะเจ็บปวด ไม่ว่าคุณจะเลือกโครงการดีแค่ไหน ตั้งอยู่ในทำเลดีก็แล้ว แต่ก็ยังไม่มีผู้เช่า ซึ่งปัญหาจริง ๆ แล้วนั้น คือ จำนวยยูนิตในโครงการ กับสัดส่วนระหว่างคนซื้อเพื่อปล่อยเช่า กับคนซื้อที่มีอยู่จริง ดังนั้นถ้า Demand ไม่มากพอ และห้องของคุณไม่ได้โดดเด่นในเรื่องอะไร ถ้าอยากปล่อยเช่าที่ได้ราคาดี อาจต้องใช้เวลานานสักหน่อย อีกทั้งยังต้องเจอคู่แข่งใช้วิธีตัดราคาแล้วละก็ ลางร้ายมาถึงคุณเป็นแน่

2. ค่าเช่า ไม่พอค่าผ่อน

อย่าใช้หลักการเอาเงินคนอื่นมาลงทุน เช่น กู้ธนาคาร โดยคิดรวบรัดแบบง่าย ๆ คือ กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนจ่าย 7,000 บาท ลงทุนในคอนโดมิเนียมราคา 2 ล้านบาท ซึ่งราคาตามท้องตลาดควรปล่อยเช่าอย่างต่ำ 14,000 บาทต่อเดือน แต่คุณลืมมองไปว่า ต้องเป็นผู้ที่รายได้เท่าไร ถึงจะเช่าห้องราคานี้อยู่ได้ นั่นคือเรื่องจริงที่ว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีกำลัง

3. ปรับปรุงซ่อมแซม ไม่มีวันจบ

เนื่องจากว่า มันคือหน้าที่ของเจ้าของบ้านเช่าที่ต้องดูแล ในบางเจ้าของ เบื่อที่จะตามแก้ปัญหา ปล่อยทิ้ง สุดท้ายปัญหาลามไปส่วนอื่น ทั้งหมดนี่คือความจริง ที่ธุรกิจบ้านเช่าต้องเจอ เช่น หลังคารั่วซึม แต่ปล่อยทิ้งไว้ จนกลายเป็นปัญหาฝาบวมตามมา รวมทั้ง คุณอาจเจอผู้เช่าบางราย เจรจาขอติดตั้งโน่นนี่นั่น ขอเจาะผนัง เป็นต้น ซึ่งหากในสัญญาเช่าระบุไม่ชัดเจน สุดท้ายบ้านเสียหายมีรอยเจาะ เจ้าของบ้านก็ต้องรับผิดชอบอย่างจำใจ

4.ปล่อยบ้านสกปรก

เนื่องจากคนเช่าย่อมไม่ได้รักษาดูแลเหมือนบ้านตนเอง ดังนั้นสภาพบ้านจะทรุดโทรมมากน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับความโชคดีของผู้ปล่อยเช่า แม้จะมีการเก็บเงินประกันไว้ แต่ใช่ว่าจะคุ้มกับต้นทุนที่เราต้องซ่อมแซมบ้านเสมอไป

5. ผู้เช่าหนีหาย

เรื่องแบบนี้ คุณต้องลองสังเกตผู้เช่าให้ดี มีอาการส่อแวว เริ่มจ่ายช้า จ่ายค่าเช่าไม่ตรงเวลา เชื่อว่าถ้าเป็นเจ้าของบ้านมือใหม่ จะใช้วิธีประนีประนอม ช่วยเหลือกันไป แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ความใจดีนี่ล่ะ คือภัยอันตรายต่อตัวคุณ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ผู้เช่าหนีไปพร้อมกับค่าเชาที่ค้างยังไม่พอ ยังมีเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค้างจ่ายตามมาอีกด้วย จะไม่จ่าย ก็ต้องถูกตัดน้ำไฟ สุดท้ายผู้ปล่อยเช่าต้องเป็นคนรับผิดชอบอยู่ดี

6. ไม่จ่าย ไม่หนี ไม่ย้ายออก

เพราะกฎหมายในบ้านเรานั้น คุ้มครองผู้เช่า หากใครเคยทำธุรกิจปล่อยบ้านเช่า จะรู้ในเรื่องนี้ดี ในบางรายเจอผู้เช่าท้าให้ไปฟ้องให้ศาลขับไล่ หากใครไม่อยากเจอกรณีแบบนี้ ลองกลับไปลงรายละเอียดต่าง ๆ ที่ปิดช่องโหว่เรื่องสัญญาเช่าให้ดี เพราะหากแก้ไขไม่ทันแล้วนั้น ควรดำเนินตามขั้นตอนดังนี้ ออกจดหมายแจ้งเตือน, ออกเอกสารยกเลิกสัญญา ไปจนถึงขั้นฟ้องศาล