สินเชื่อบ้านเพื่อผู้มีบัญชี สินมัธยะทรัพย์ทวี

ธนาคารกรุงเทพ สินเชื่อบ้าน

ออมกับบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีสินมัธยะทรัพย์ทวี แล้วรับสิทธิพิเศษ
จากสินเชื่อบ้านบัวหลวง

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

วงเงินสูง

สูงสุด 70-95% ของมูลค่าหลักประกัน

ผ่อนสบาย

นานสูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุกับระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 65 ปี

สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่

หลักประกัน

ที่ดิน หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัย

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกันในอัตราพิเศษ

ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ

รายละเอียดสินเชื่อ

คุณสมบัติผู้กู้

ฝากเงินติดต่อกันตั้งแต่ 12 งวดขึ้นไปนับแต่วันที่เปิดบัญชี หรือ ยื่นคำขอสินเชื่อบ้านบัวหลวงภายในระยะเวลา 1 ปี หลังเงินฝากครบกำหนด

วิธีการสมัคร

หากคุณสนใจใช้สินเชื่อบ้านบัวหลวง สามารถตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นและสมัครออนไลน์ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงกรอกข้อมูลเบื้องต้นในแบบฟอร์มผ่านทางเว็บไซต์นี้ หรือพบผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ ณ สาขาธนาคารกรุงเทพ ที่พร้อมให้คำแนะนำ และช่วยคุณเลือกสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการ

อัตราดอกเบี้ย

ยอดเงินฝากรายเดือน อัตราดอกเบี้ย ค่าประเมินราคา
20,000 – 25,000 บาท ปีแรกลดลง 0.50% จากอัตราปกติ ยกเว้น
10,000 – 19,000 บาท ปีแรกลดลง 0.35% จากอัตราปกติ ยกเว้น
5,000 – 9,000 บาท ปีแรกลดลง 0.25% จากอัตราปกติ ยกเว้น
1,000 – 4,000 บาท อัตราปกติ 1,605 บาท

หมายเหตุ:

  • รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีแรกเพิ่มอีก 0.25% เมื่อสมัครประกันชีวิตคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์

อัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้ ไม่สามารถใช้ร่วมกับข้อเสนอพิเศษที่ธนาคารมอบให้ลูกค้าที่ซื้อสังหาริมทรัพย์กับโครงการอสังหาริมทรัพย์หรือข้อเสนอพิเศษอื่นๆ (ในกรณีที่ลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษจากโครงการ ลูกค้าสามารถเลือกใช้สิทธิ์ในโปรโมชั่นที่ต้องการได้)

บริการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น

สะดวก รวดเร็ว

คุณสามารถตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น พร้อมทราบผลพิจารณาเบื้องต้น เพียงกรอกข้อมูลออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์

บริการให้คำปรึกษา

เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะติดต่อกลับเพื่อให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการขอสินเชื่อที่เหมาะกับคุณ

รับของขวัญพิเศษ

เมื่อสมัครสินเชื่อบ้านบัวหลวงออนไลน์ พร้อมทั้งจดจำนองกับธนาคาร ระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 63 – 31 ธ.ค. 63
วงเงินจดจำนอง ของขวัญ
5 ล้านบาทขึ้นไป Central Group e-Voucher มูลค่ารวม 5,000 บาท (จำกัด 20 สิทธิ์)
3 – 4.99 ล้านบาท Central Group e-Voucher มูลค่ารวม 3,000 บาท (จำกัด 30 สิทธิ์)
1 – 2.99 ล้านบาท Central Group e-Voucher มูลค่ารวม 1,000 บาท (จำกัด 50 สิทธิ์)

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

  • สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนสมัครสินเชื่อบัวหลวงออนไลน์ พร้อมทั้งจดจำนองกับธนาคาร ตั้งแต่ 1 ส.ค. 63 – 31 ธ.ค. 63 เท่านั้น หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยธนาคารจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • จำกัด 1 คน/1 สิทธิ์/หลักประกัน และจำกัด 100 สิทธิ์ตลอดระยะเวลาโครงการ ในกรณีที่ลูกค้าได้รับมากกว่า 1 รางวัล ธนาคารขอสงวนสิทธิ์มอบเพียง 1 รางวัลสูงสุด และสงวนสิทธิ์ให้ลูกค้าที่มีการจดจำนองเรียบร้อยแล้วตามลำดับก่อน-หลัง
  • ธนาคารจะส่ง SMS แจ้งสิทธิ์การรับ Central Group e-Voucher ให้ลูกค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขภายใน 90 วันทำการ หลังจากที่ลูกค้าจดจำนองเรียบร้อยแล้ว
  • ลูกค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขจะได้รับ Central Group e-Voucher บนบริการโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ โดยสามารถกดรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่ 15 พ.ย. 63 – 30 เม.ย. 64 เท่านั้น ทั้งนี้ หากไม่กดรับสิทธิ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์
  • Central Group e-Voucher ไม่สามารถ แลก เปลี่ยน โอนหรือทอนเป็นเงินสด และไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้
  • เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ในกรณีมีข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้ง คำตัดสินของธนาคารถือเป็นที่สุด
  • เงื่อนไขการใช้ e-Voucher เป็นไปตามที่ บริษัท เซ็นทรัล เพย์เม้นท์ จำกัด กำหนด
  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ หรือโทร. 1333

4 เรื่องต้องรู้ ก่อนขอสินเชื่อ

เกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ

เตรียมความพร้อมก่อนสมัครสินเชื่อบ้านบัวหลวง โดยศึกษาเกณฑ์ในการอนุมัติสินเชื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าการสมัครสินเชื่อของคุณจะราบรื่นไร้ปัญหา

  • ผู้สมัครสินเชื่อต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ
    สูงสุด 35 ปี) ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัครรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 65 ปี
  • คุณจะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดประมาณ 80-90% ของราคาประเมิน หรือ 100% ของยอดสินเชื่อที่เหลือหากเป็นกรณีทำ รีไฟแนนซ์

ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อ

  • ยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาธนาคาร 
    คุณสามารถยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่สาขาธนาคารที่คุณสะดวก เจ้าหน้าที่จะพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นจากข้อมูลของคุณ เช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หนี้สินอื่นๆ เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระคืนเงินกู้ของคุณ
  • ส่งใบคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบเพื่อรอการพิจารณาอนุมัติ 
    เจ้าหน้าที่สาขาจะส่งใบคำขอสินเชื่อของคุณพร้อมเอกสารประกอบคำขอสินเชื่อไปที่ศูนย์สินเชื่ออุปโภคบริโภค เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยพิจารณาจาก

    • วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ
    • คุณสมบัติผู้ขอกู้
    • ประวัติทางการเงิน
    • ความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ
    • ประเภทและมูลค่าของหลักประกัน

เจ้าหน้าที่ส่วนประเมินหลักทรัพย์จะติดต่อคุณเพื่อนัดหมายเข้าไปประเมินมูลค่าหลักประกัน ตามวันและเวลาที่คุณสะดวก ภายใน 7 วันทำการ หลังจากที่คุณได้ยื่นใบคำขอสินเชื่อแล้ว

  • แจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

ธนาคารจะติดต่อและแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้คุณทราบภายใน 3-10 วันทำการ นับจากวันที่คุณยื่นใบคำขอสินเชื่อ เพื่อเตรียมนัดวันทำนิติกรรมสัญญาและจำนอง

  • ทำสัญญากู้เงิน และสัญญาจดจำนอง

หากคุณได้รับอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะนัดหมายคุณเพื่อทำสัญญากู้เงิน สัญญาจดจำนอง ณ สำนักงานที่ดินในเขตท้องที่ที่โฉนดที่ดิน หรือหลักประกันจดทะเบียนไว้ กรณีมีผู้กู้ร่วม หรือผู้ค้ำประกัน ผู้กู้และผู้กู้ร่วมทุกคนจะต้องร่วมลงนามในสัญญาทุกฉบับ คุณควรเตรียมค่าใช้จ่าย ได้แก่ ค่าธรรมเนียมโอน ค่าธรรมเนียมจดจำนอง ค่าอากรแสตมป์มาในวันทำสัญญา โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่นัดหมาย

เอกสารประกอบการสมัครสินเชื่อ

เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ กรุณาเตรียมเอกสารที่จำเป็นในการขอสินเชื่อให้ครบถ้วน


เอกสารสำหรับผู้กู้ทุกประเภท

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ
  • สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (กรณีประกอบวิชาชีพเฉพาะ)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
  • ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ทุกใบ)


เอกสารแสดงรายได้ กรณีผู้กู้/ผู้กู้ร่วมเป็นพนักงานหรือข้าราชการ

  • ต้นฉบับหนังสือรับรองเงินเดือน (ไม่เกิน 3 เดือน)
  • ต้นฉบับสลิปเงินเดือนล่าสุด และสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเดือน
  • สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี (กรณีรับเงินเดือนเป็นเงินสด)


เอกสารแสดงรายได้ กรณีผู้กู้/ผู้กู้ร่วมเป็นเจ้าของกิจการ

  • สำเนาเอกสารการจดทะเบียนบริษัท (ทะเบียนพาณิชย์/การค้า/หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล/ทะเบียนผู้ถือหุ้น) (ไม่เกิน 3 เดือน)
  • สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่เกิน 3 เดือน)
  • สำเนาบัญชีธนาคารที่แสดงกระแสการเงินของบริษัท เช่น บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน วงเงินเบิกเกินบัญชี เป็นต้น ย้อนหลัง 6 เดือน
  • งบการเงินปีล่าสุด หรือสำเนารายการแสดงภาษีเงินได้ประจำปี ปีล่าสุด


เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ

  • สำเนาโฉนดที่ดิน/สำเนาเอกสารกรรมสิทธิ์ห้องชุด
  • สำเนาเอกสารสัญญาจะซื้อจะขาย
  • เอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์
  • แผนที่แสดงที่ตั้งหลักประกัน


เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ  (เพิ่มเติมกรณีปลูกสร้าง/ต่อเติม/ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย)

  • สำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร/ปรับปรุงอาคาร
  • สำเนาพิมพ์เขียว (แบบแปลนก่อสร้าง)
  • สำเนาสัญญาว่าจ้างระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ขอสินเชื่อ


เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ (เพิ่มเติมกรณีรีไฟแนนซ์)

  • สำเนาสัญญาจำนอง และข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนอง
  • สำเนาสัญญากู้เงิน
  • สำเนาใบเสร็จการผ่อนชำระหนี้ย้อนหลัง 3 เดือน


เอกสารแสดงฐานะทางการเงินและภาระหนี้สิน

  • สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารแสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอื่นๆ เช่น โฉนดที่ดิน ห้องชุด พันธบัตร ใบหุ้น เอกสารสัญญาแสดงสิทธิการเช่า ฯลฯ
  • สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน/สัญญาเช่าซื้อ/สัญญาจำนอง และเอกสารหลักฐานการชำระหนี้ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา

ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อ

สินเชื่อบ้านบัวหลวง สินเชื่อ

บัวหลวง

พูนผล

สินเชื่อ

บัวหลวง

สานฝัน

สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยทุกประเภท สินเชื่อเพื่อปลูกสร้าง/ ต่อเติม/ตกแต่ง/ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อ

รีไฟแนนซ์

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน

จัดสรรในโครงการที่ธนาคาร

ให้การสนับสนุน (Post Finance)

สินเชื่อเพื่อซื้อทรัพย์สินรอการขายของธนาคารกรุงเทพสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัย
ค่าธรรมเนียม

ประเมินหลัก

ประกัน

 

3,000 บาท (ไม่รวม VAT)

แล้วแต่โครงการ ยกเว้นค่าประเมินหลักประกัน 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) 3,000 บาท (ไม่รวม VAT)
กรณีชำระ

หมดก่อน 3 ปี

(รีไฟแนนซ์)

 

หากชำระหมดก่อน 3 ปี คิดค่าปรับ 3% ของภาระหนี้คงค้าง

 

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 

ผู้ซื้อบ้านควรเตรียมค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังต่อไปนี้

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อบ้าน 
    • เงินมัดจำที่จะชำระในวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย
    • เงินดาวน์
    • ค่านายหน้า (ถ้ามี)
    • ค่าใช้จ่ายในการขนย้าย
    • ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ทนายความต้องชำระเพื่อดำเนินการแทน (เช่น ค่าธรรมเนียมในการขอตรวจสอบเอกสารหรือหลักฐานจากสำนักงานที่ดิน หรือกระทรวงพาณิชย์ ค่าจดทะเบียน ค่าถ่ายเอกสาร เป็นต้น)
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับธนาคาร 
    • ค่าอากรแสตมป์
    • ค่าธรรมเนียมในการประเมินหลักประกัน
  • ค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน 
    • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมิน
    • ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของมูลจำนอง
  • เบี้ยประกันภัย 
    • เบี้ยประกันอัคคีภัย
    • เบี้ยประกันคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์ (บริษัทประกันจะรับภาระสินเชื่อแทนในกรณีผู้ซื้อเสียชีวิตหรือทุพลภาพ)