ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ที่มีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ และมีการสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อผ่านบัญชีออมทรัพย์ดังกล่าว รับสิทธิชำระดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงถึง 50% ของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายตามปกติ ทั้งนี้ขึ้นกับยอดเงินฝากในบัญชีเงินฝาก กล่าวคือยอดเงินฝากที่สามารถนำมาคำนวณเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 50% ของยอดเงินต้นคงค้าง ณ สิ้นวัน
ใหม่ ! สินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ไม่ต้องโปะ เงินกู้หมดเร็ว
ลักษณะเด่นของบริการ
1. รับสิทธิลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 50% ตลอดอายุสัญญา
2. รับประโยชน์จากเงินออมมากกว่าเดิม เพราะเงินออมช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้ได้ ยอดเงินออมยิ่งมาก ดอกเบี้ยเงินกู้ยิ่งลดลง
3. ลูกค้าสามารถฝาก-ถอนเงินได้ทุกเมื่อ และยังได้รับดอกเบี้ยจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ตามปกติ
ผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ
- สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (ซื้อใหม่/ซื้อมือสอง/ปลูกสร้าง)
- สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์
ไม่รวม สินเชื่อเพื่อซื้อประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA) และสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช
คุณสมบัติผู้กู้
1. ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่มีวงเงินกู้อนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
2. ลูกค้าสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ ที่มีวงเงินกู้อนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
- ผู้กู้มีบัญชีออมทรัพย์จัดให้ ซึ่งเป็นบัญชีที่มีสถานะปกติและสามารถเบิกถอนได้ทั้งจำนวน ในกรณีที่บัญชีเงินฝากถูกอายัดหรือติดภาระค้ำประกันสินเชื่อ(ทั้งหมดหรือบางส่วน) จะไม่ถูกนำไปคำนวณเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้จนกว่าจะกลับมาสู่สถานะปกติแล้วเท่านั้น โดยเจ้าของบัญชีเงินฝากต้องตรงกับชื่อของผู้กู้ ในกรณีที่มีผู้กู้หลายคนอย่างน้อยชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากต้องตรงกับชื่อผู้กู้คนใดคนหนึ่ง
- ผู้กู้สมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ผ่านบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดังกล่าว
- จำกัดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ 1 บัญชี ต่อการสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง 1 บัญชีเท่านั้น
- ลูกค้าสามารถมีบัญชีสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งได้หลายบัญชีในคราวเดียว ทั้งนี้ลูกค้าสามารถสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งจากบัญชีออมทรัพย์จัดให้ เพียง 1 บัญชีต่อ 1 บัญชีสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งเท่านั้น
- สงวนสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งได้เฉพาะผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เข้าร่วมโครงการตามที่ธนาคารกำหนดเท่านั้น ไม่รวมถึงบัญชีเงินกู้เพื่อซื้อประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA) และสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช
ช่องทางการสมัคร
- สมัครได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขาในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล (ในวันทำการ) ที่ตั้งสาขา
- ติดต่อทีมสินเชื่อบ้านกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 1222 ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ : 1572
เอกสารประกอบการสมัคร
เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนสมรส/ หย่า/ ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาใบมรณบัตร และทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีคู่สมรสเสียชีวิต)
เอกสารแสดงรายได้
กรณีบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ประจำ
- หนังสือรับรองการทำงาน หรือสำเนาสลิปเงินเดือน (ฉบับล่าสุด) (สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
- หนังสือรับรองโบนัสประจำ (ถ้ามี)
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ย้อนหลัง 12 เดือน กรณีมีรายได้เป็น commission)
- แบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (50 ทวิ และ ภงด.90/91) พร้อมใบเสร็จการชำระภาษีย้อนหลัง 2 ปี
กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า ไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม ไม่เกิน 3 เดือน
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
- สำเนา ภ.พ.30 พร้อมใบเสร็จ (ถ้ามี)
- สำเนา ภ.พ.20 (ถ้ามี)
- สำเนาบริคณห์สนธิ ไม่เกิน 3 เดือน
เอกสารทางด้านหลักประกัน
- สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (ขนาดเท่าตัวจริงทุกหน้า)
- ใบอนุญาตปลูกสร้าง / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง เช่น สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน (ทด.13) หรือหนังสือสัญญาให้ที่ดิน (ทด.14 )
- สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน (กรณีถ้ามีสัญญาเงินกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอื่นและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ)
- แผนที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป
- สำเนาสัญญากู้เงินกับสถาบันการเงินเดิม
- สำเนาใบเสร็จเงินกู้เดือนล่าสุด
ค่าธรรมเนียม
ประเภท | จำนวนเงินที่เรียกเก็บ | ช่องทางการชำระเงิน |
ค่าธรรมเนียม | ||
ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน (วงเงินกู้รวมต่อหลักประกันไม่เกิน 50 ล้านบาท) (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) |
ฟรี! 3,210 บาท ต่อหลักประกัน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หากเกินกว่านี้ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ เรียกเก็บตามปกติสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัย (ใหม่/มือสอง) จากโครงการทั่วไป โปรดตรวจสอบโปรโมชั่นจากพนักงานขาย |
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ | (ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
เบี้ยประกันอัคคีภัย (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) |
ตามอัตราของบริษัทประกัน | ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ เพื่อสาขาทำการโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทประกันภัย |
ค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ | ||
ค่าอากรแสตมป์ (เรียกเก็บก่อน หรือ ณ วันทำนิติกรรมสัญญา) |
คิด 0.05% ของวงเงินกู้ (ไม่เกิน 10,000 บาท) |
ชำระโดยเงินสด, เงินโอน, เช็ค หรือยินยอมให้ตัดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ | (ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา)
ค่าจดจำนอง (เรียกเก็บ ณ วันจดจำนองที่กรมที่ดิน) |
คิด 1% ของทุนจำนอง | |
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ | ||
ค่าตรวจงวดงานก่อสร้าง (เฉพาะสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านผ่านบริษัทตัวแทนที่ธนาคารสนับสนุน) |
3,210 บาท ทุกวงเงิน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เหมาจ่ายครั้งเดียว |
|
ค่าตรวจงวดงานก่อสร้าง (เฉพาะสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านผ่านบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ใช่บริษัทตัวแทนที่ธนาคารสนับสนุน) |
ครั้งละ 1,070 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) |
|
ค่าเบี้ยปรับกรณีปิดภาระหนี้ก่อนกำหนด (เมื่อลูกค้ารีไฟแนนซ์ไปสถาบันการเงินอื่นภายใน 3 ปีแรก นับจากวันทำสัญญา) |
คิด 3% ของยอดหนี้คงเหลือ |
คำถาม-คำตอบ
Q1: คุณสมบัติของลูกค้าแบบใดที่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้
A1: ลูกค้าต้องสมัครสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือสินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ โดยมีวงเงินสินเชื่ออนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปจึงจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้
Q2: ลูกค้าที่กู้สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช หรือสมัครสินเชื่อประกันชีวิตคุ้มครองเงินกู้ (MRTA/MLTA) สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ ได้หรือไม่
A2: ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่เข้าร่วมในโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง
Q3: ลูกค้าจำเป็นต้องมีสถานะเป็นลูกค้ากรุงศรีเอ็กซ์คลูซีฟ*หรือไม่ จึงจะเข้าร่วมโครงการนี้ได้
A3: ไม่จำเป็น เพียงแต่ลูกค้าต้องสมัครสินเชื่อตามผลิตภัณฑ์ที่ทางธนาคารกำหนดขึ้น
*ลูกค้าที่มียอดเงินฝาก และ/หรือลงทุนตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตามที่ธนาคารกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้จากสื่อต่างๆของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
Q4: หากลูกค้าสมัครผลิตภัณฑ์ตามที่ทางธนาคารกำหนดขึ้น แต่ทั้งนี้วงเงินสินเชื่ออนุมัติไม่ถึง 1 ล้านบาท จะเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่
A4: ไม่ได้ เนื่องจากวงเงินสินเชื่ออนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปจึงจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้
Q5: ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง อย่างไร
A5: รับสิทธิชำระดอกเบี้ยเงินกู้เพียง 50% ของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายตามปกติ ทั้งนี้ขึ้นกับยอดเงินฝากในบัญชีเงินฝาก ณ สิ้นวันของแต่ละวัน กล่าวคือยอดเงินฝากที่สามารถนำมาคำนวณเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 50% ของยอดเงินต้นคงค้าง ณ สิ้นวัน รวมถึงได้รับความสะดวกในการชำระค่างวดเงินกู้จากบริการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดอีกด้วย
Q6: ยอดเงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่นำมาคำนวณเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ ณ สิ้นวัน คืออะไร
A6: คือ ยอดเงินฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์สุทธิ ณ เวลาประมาณ 24.00 น. ของแต่ละวัน ซึ่งหากลูกค้าได้สมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อต่างๆ ค่าบัตรเครดิต หรือค่าสาธารณูปโภคต่างๆ จากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นี้ไว้ด้วย ยอดเงินฝากที่นำมาคำนวณเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ จะเป็นยอดเงินฝากสุทธิหลังจากหักชำระค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว
Q7: ลูกค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ต้องสมัครอย่างไร มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือไม่
A7: เจ้าหน้าที่ที่ดูแลสินเชื่อจะสอบถามความประสงค์ของลูกค้าเพื่ออธิบายรายละเอียดของโปรแกรม หรือ ลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสินเชื่อว่าต้องการเข้าร่วมโครงการ โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด
Q8: บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ประเภทใดบ้างที่สามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง
A8: ปัจจุบันธนาคารกำหนดเฉพาะบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
Q9: ลูกค้าต้องการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง แต่มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ จะต้องทำอย่างไร
A9: ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ได้ที่ทุกสาขาทั่วประเทศ แล้วใช้บัญชีเงินฝากดังกล่าวสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง
Q10: ชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ จำเป็นต้องตรงกับชื่อผู้กู้หรือไม่
A10: ชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากต้องตรงกับชื่อของผู้กู้(ในกรณีที่มีผู้กู้หลายคน อย่างน้อยชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากต้องตรงกับชื่อของผู้กู้คนใดคนหนึ่ง)
Q11: ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งได้มากกว่า 1 บัญชีหรือไม่
A11: ได้ แต่ทั้งนี้หากลูกค้าต้องการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง และมีมากกว่า 1 บัญชี ลูกค้าต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์จัดให้ 1 บัญชี ต่อ 1 บัญชีสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง
Q12: กรณีที่ลูกค้ากู้สินเชื่อบ้านพร้อมสมัครสินเชื่อประกันชีวิตคุ้มครองเงินกู้ (MRTA/MLTA) ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการทั้ง 2 บัญชีเลยได้หรือไม่
A12: ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าโครงการจากบัญชีหลักเพียงบัญชีเดียวเท่านั้น สำหรับบัญชีสินเชื่อ MRTA/MLTA จะไม่สามารถเข้าร่วมโปรแกรมสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ได้ แต่ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บัญชีออมทรัพย์จัดให้ในการตัดชำระค่างวดทั้งบัญชีสินเชื่อบ้านและบัญชี MRTA/MLTA ได้
Q13: บัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ที่สมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง มีการกำหนดยอดเงินฝากคงเหลือขั้นต่ำหรือไม่
A13: บัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ ไม่มีการกำหนดยอดเงินฝากคงเหลือขั้นต่ำ
Q14: ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ที่เคยสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งไว้แล้ว เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้อื่นของลูกค้า ได้หรือไม่
A14: ได้ ทั้งนี้ลูกค้าจะต้องติดต่อสาขาของธนาคารเพื่อเปลี่ยนแปลงบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้สำหรับใช้หักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งแทนบัญชีออมทรัพย์จัดให้เดิม
Q15: มีจำกัดยอดสูงสุดของยอดเงินฝากคงเหลือในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ที่สมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง หรือไม่
A15: ยอดเงินฝากคงเหลือในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้จะมีเท่าไหร่ก็ได้ไม่จำกัด แต่ธนาคารจะนำยอดเงินฝากในบัญชี ณ สิ้นวันสูงสุดไม่เกิน 50% ของยอดเงินต้นคงค้างของเงินกู้ มาหักลบกับยอดเงินต้นคงค้างของวงเงินกู้เท่านั้น แล้วจึงนำยอดเงินต้นคงค้างส่วนที่เหลือไปคำนวณดอกเบี้ยเงินกู้ของแต่ละวัน
Q16: กรณีใดบ้างที่ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับสิทธิประโยชน์โครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง
A16: ข้อ 1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่สมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง มีสถานะไม่ปกติ หรือ ไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ทั้งจำนวน เช่น บัญชีไม่เคลื่อนไหว (Inactive Account), ปิดบัญชี (Closed Account), บัญชีที่อยู่ในระหว่างถูกยึดหรืออายัด และเป็นบัญชีที่ถูกนำไปใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อของธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น เป็นต้น
ข้อ 2. ลูกค้าเปลี่ยนแปลงบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ที่สมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อื่นที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
ข้อ 3. ลูกค้าใช้บัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้สมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งมากกว่า 1 บัญชี
ทั้ง 3 กรณีดังกล่าว ธนาคารจะส่ง SMS แจ้งเตือนลูกค้าในวันทำการถัดไป เพื่อให้ลูกค้าทราบและแก้ไขบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดังกล่าวให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
Q17: ลูกค้าจะทราบได้อย่างไรว่าตนเองได้ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้เท่าไหร่จากการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง
A17: ลูกค้าสามารถสอบถามได้ที่ Call Center 1572
Q18: ลูกค้าสามารถขอยกเลิกการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ได้หรือไม่
A18: ลูกค้าสามารถติดต่อ Call Center 1572 หรือทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อขอยกเลิกการเข้าร่วมโครงการโดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น
Q19: ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ได้เป็นระยะเวลาเท่าใด
A19: ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ตลอดสัญญาเงินกู้ โดยลูกค้าต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดตลอดอายุสัญญาเงินกู้
Q20: กรณีที่ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ จะยังได้รับสิทธิประโยชน์จากโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งหรือไม่
A20: ลูกค้ายังคงได้รับสิทธิประโยชน์ดังเดิม แต่หากมีการผิดนัดชำระหนี้ ยอดหนี้ที่ผิดนัดชำระจะทำให้การคำนวณเพื่อลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง ซึ่งเป็นไปตามเครื่องมือการคำนวณของโครงการ
Q21: กรณีที่ลูกค้าแจ้งว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง แต่ต่อมาต้องการเข้าร่วมโครงการจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่ ต้องทำอย่างไร
A21: ได้ ลูกค้าต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสินเชื่อภายในระยะเวลา 2 เดือนนับจากวันที่จดจำนองสินเชื่อ และสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติเพื่อชำระค่างวดสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งผ่านบัญชีออมทรัพย์จัดให้ ทั้งนี้ธนาคารจะนัดวันเพื่อให้ลูกค้ามาลงนามในบันทึกต่อท้ายสัญญา ลูกค้าจึงจะได้รับสิทธิประโยชน์หลังจากวันที่ลงนามเรียบร้อยแล้วเป็นต้นไป
Q22: การเข้าร่วมโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่ง ลูกค้าจำเป็นต้องสมัครบัตร Debit พร้อมกับการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ หรือไม่
A22: ไม่จำเป็น แต่ทั้งนี้ในกรณีที่ลูกค้าสมัครบัตร Debit ลูกค้าจะได้สิทธิประโยชน์ที่มากับบัตรกรุงศรี เดบิต ออมทรัพย์จัดให้ (ตาม promotion ของบัตร Debit)
Q23: ลูกค้าสามารถปิดบัญชีเก่าที่เป็นออมทรัพย์จัดให้ แล้วเปิดบัญชีออมทรัพย์จัดให้อันใหม่ได้หรือไม่
A23: ได้ ลูกค้าสามารถเปิดเลขที่บัญชีออมทรัพย์จัดให้บัญชีใหม่ได้แต่ต้องกลับมาสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติได้
Q24: หากภายหลังลูกค้ายกเลิกบัตรกรุงศรี เดบิต ออมทรัพย์จัดให้ ที่สมัครพร้อมกับการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์จัดให้ จะยังได้รับสิทธิประโยชน์ของโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งตามปกติหรือไม่
A24: ยังได้รับสิทธิประโยชน์ของโครงการสินเชื่อบ้านซุปเปอร์เซฟวิ่งตามปกติ