ยอดใช้จ่าย “คนละครึ่ง” พุ่ง 7 หมื่นล้านบาท – แนะนำอีก 2 วิธี “ยืนยันตัวตน” หากทำผ่านแอปไม่สำเร็จ

เรื่องที่น่าสนใจล่าสุด

(24 ม.ค.64) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งล่าสุด ณ วันที่ 23 มกราคม 2564 มียอดใช้จ่ายสะสม 70,590 ล้านบาท ส่วนจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ มี 1.18 ล้านร้านค้า

น.ส.กุลยา กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังจะนำสิทธิที่เหลือของโครงการคนละครึ่ง และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จำนวนรวม 1.34 ล้านสิทธิ มาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพิ่มเมื่อวันพุธที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา

หากผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จและได้รับข้อความ SMS แจ้งยืนยันการได้รับสิทธิแล้วจะต้องติดตั้งแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” รวมทั้งยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยจึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่มีแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.64 จนถึงวันที่ 31 มี.ค.64

แนะนำอีก 2 วิธี “ยืนยันตัวตน” หากทำผ่าน “แอปเป๋าตัง” ไม่สำเร็จ

จากกรณีการยืนยันตัวตนสำหรับเปิดใช้งาน ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐ (g-wallet) เพื่อใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่งในแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ไม่สำเร็จ สามารถใช้วิธีอื่นในการยืนยันตัวตน ได้แก่

วิธีที่ 1

ติดต่อโดยตรงที่เคาน์เตอร์สาขาของธนาคารกรุงไทย

วิธีที่ 2

ยืนยันตัวตนผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติของธนาคารกรุงไทย (ตู้เอทีเอ็ม) มีขั้นตอนดังนี้

1.เลือกเมนู “ยืนยันตัวตน” (ไม่ต้องใช้บัตรเอทีเอ็ม)
2.ยืนยัน “การเป็นเจ้าของบัตรประชาชน”
3.ยินยอมให้ “เปิดเผยข้อมูลพิสูจน์ตัวตน”
4.เสียบบัตรประชาชน รอระบบตรวจสอบข้อมูลยืนยันตัวตนของท่าน
5.เมื่อระบบตรวจสอบเสร็จนำบัตรประชาชนออกและดำเนินการต่อบนแอพพ์เป๋าตัง

แหล่งข่าว https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5806781