ซัมมิท แคปปิตอล เดินหน้า มุ่งสู่ องค์กรดิจิทัล ภายใต้ค่านิยมหลัก I TRUST

ธุรกิจ - การลงทุน

(24 กันยายน พ.ศ. 2563) ซัมมิท แคปปิตอล หนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลในประเทศไทย ประกาศเดินหน้าสู่ “องค์กรดิจิทัล” มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและให้บริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า ล่าสุดมีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัย พร้อมนำระบบตอบรับอัตโนมัตทางโทรศัพท์ รวมถึง ไลน์ ออฟฟิเชียล แอคเคาท์ และแชตบอตมาใช้งาน เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการปฏิบัติงานและความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้า

นายฮิเดโตโมะ ฟูจิวาระ ประธานบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ซัมมิท แคปปิตอล มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนองค์กรในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อประสิทธิภาพของงานและประสิทธิผลที่เป็นเลิศ ภายใต้ค่านิยมหลัก I TRUST ซึ่งอักษร T ตัวสุดท้ายหมายถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology & innovation) นั่นเอง บริษัทฯ จึงได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็น องค์กรดิจิทัล (Digital Organization) เพื่อเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ความท้าทาย รวมถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

ทั้งนี้ได้มีการปรับปรุงเว็บไซต์ www.summitcapital.co.th ให้ทันสมัย ใช้งานง่ายขึ้น ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ และมีความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งติดตั้งระบบตอบรับอัตโนมัติ หรือ IVR (Interactive Voice Response) ที่ช่วยให้ลูกค้าที่โทรเข้ามายังคอลเซ็นเตอร์สามารถสอบถามยอดถึงกำหนดชำระหรือทำรายการใช้บริการได้เองตามความต้องการ โดยไม่ต้องรอสายพูดคุยกับพนักงานโดยตรง จึงได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำมากขึ้น รวมถึงมีระบบ Auto Dialer ซึ่งเป็นระบบโทรออกอัตโนมัติไปยังลูกค้าตามรายชื่อที่มีอยู่ในระบบ เพื่อช่วยในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ายบริหารหนี้ทางโทรศัพท์

นายสุพจน์ สุฤทธิ์ภิญโญ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารองค์กรและบริการลูกค้า (CG) กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้สร้างออฟฟิเชียลแอคเคาท์ในแอปพลิเคชันไลน์ (Line Official Account) ซึ่งได้นำเอาเทคโนโลยี Chatbot มาใช้ร่วมด้วย เพื่อช่วยในการสนทนาโต้ตอบกับลูกค้าได้ตลอดเวลา

ก่อนหน้านี้ ซัมมิท แคปปิตอล ยังได้พัฒนาระบบ RPA (Robotic Process Automatic) ซอฟต์แวร์อัตโนมัติสำหรับการบริหารจัดการข้อมูล เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ ประหยัดเวลา และลดภาระงานของพนักงาน โดยได้นำระบบ RPA มาใช้ในกลุ่มงานการเงินและบริหารงานกลาง (CFD) สายงานบริหารงานขายและการตลาด (SMG) และกลุ่มงานบริการลูกค้าและปฏิบัติการ (CSO) ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งช่วยลดเวลาในด้านปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลรวมกว่า 356 ชั่วโมง หรือประมาณร้อยละ 69 ของเวลาในการปฏิบัติงานปกติอีกด้วย”