โปรไบโอติก (Probiotic) เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต จุลินทรีย์เหล่านี้ได้รับการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะเข้าไปตั้งรกรากอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ เพื่อช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่เดิมในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียที่ดีมีจำนวนมากขึ้นและแบคทีเรียที่ไม่ดีมีจำนวนลดลง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้มีการขับถ่ายดีขึ้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย
โปรไบโอติกที่นิยมบริโภคและมีการนำมาใช้มากที่สุด มีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์หลักๆ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับและมีการศึกษาวิจัยมากที่สุด นั้นคือ bifidobacterium spp. และ lactobacillus spp. โดยโปรไบโอติก แต่ละสายพันธุ์นั้นมีคุณสมบัติและประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกันออกไป
โปรไบโอติก 6 ชนิดที่มักพบในอาหาร อาหารเสริมและบนฉลากผลิตภัณฑ์ ได้แก่
- animalis: โปรไบโอติกสายพันธุ์นี้มักอยู่ในพวกโยเกิร์ต เป็นประโยชน์ในการช่วยย่อยอาหาร ต่อสู้กับเชื้อก่อโรคที่เกิดจากอาหาร และมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- breve: โปรไบโอติกนี้มักอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารและในช่องคลอด ช่วยในการต่อสู้แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อต่างๆ ช่วยให้ร่างกายย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
- lactis: พบได้ในน้ำนมแม่และในลำไส้ มักใช้ในผลิตภัณฑ์นมสำหรับทารก และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย ชีส
- longum: โปรไบโอติกสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่ในทางเดินอาหาร ช่วยในการย่อยคาร์โบไฮเดรตและเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ
- acidophilus: โปรไบโอติกสายพันธุ์นี้พบได้ทั้งในลำไส้เล็กและในช่องคลอด ช่วยในการย่อยอาหารและช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียต่างๆในช่องคลอด พบได้ในอาหารจำพวกโยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหมัก เช่น มิโซะ
- reuteri: โปรไบโอติกสายพันธุ์นี้พบได้ในลำไส้และช่องปาก มีส่วนช่วยในการลดแบคทีเรียและดูแลสุขภาพของช่องปาก
การบริโภคโปรไบโอติกนั้นควรเลือกจากอาหารหรืออาหารเสริมที่มีโปรไบโอติกหลากหลายสายพันธุ์ เนื่องจากการรวมกันของโปรไบโอติกจะช่วยในการส่งเสริมการทำงานของร่างกายได้ดีกว่าการเลือกรับบริโภคโปรไบโอติกจากอาหารทั่วไป เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าโปรไบโอติกที่ทานไปนั้นเป็นสายพันธุ์ใด