วันนี้ (10 เม.ย. 2563) นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ตามที่ ธอส. ได้จัดทำ “โครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ” เพื่อแบ่งเบาภาระลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
โดยภายหลังเริ่มเปิดให้แจ้งความประสงค์เข้าใช้ 4 มาตรการของ ธอส. ผ่าน Mobile Application : GHB ALL ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 ล่าสุด ณ วันที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 8:00 น. มีลูกค้าของธนาคารเข้ามาตรการเป็นจำนวน 170,958 บัญชี คิดเป็นวงเงินกู้ถึง 181,927 ล้านบาท
หลังจากที่พบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มยาวนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ทำให้คณะกรรมการธนาคาร โดยนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการธนาคาร มีมติเห็นชอบให้ ธอส. จัดทำมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติม คือ มาตรการที่ 5 พักชำระเงินต้น และดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 4 เดือน
สำหรับกลุ่มลูกค้าทุกวัตถุประสงค์การกู้ที่มีวงเงินกู้ทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 3 ล้านบาท และมีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 35,000 บาท ครอบคลุมลูกค้าปัจจุบันของธนาคารในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่เข้าข่ายใช้มาตรการได้ถึง 1.1 ล้านบัญชี ทั้งสถานะบัญชีปกติ และสถานะบัญชีดอกเบี้ยผิดนัดหรือสถานะกฎหมาย
ส่วนดอกเบี้ยที่พักไว้ หลังจากที่ครบระยะเวลาพักชำระหนี้ 4 เดือน ลูกค้าต้องทยอยผ่อนชำระ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ครบภายในระยะเวลา 24 เดือน และเพื่อเป็นการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการเดินทางไปในสถานที่สาธารณะ ธอส. จึงเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาตรการแจ้งความประสงค์ผ่าน Mobile Application : GHB ALL โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา ตั้งแต่วันที่ 13-30 เม.ย.2563
สำหรับมาตรการพักเงินต้นและดอกเบี้ยของธอส. ลูกค้าไม่ต้องไปจ่ายเงินต้น ในส่วนที่พักไว้ เพิ่มเติมในช่วงท้ายสัญญาอีก เพราะการจ่ายค่างวดเป็นการคำนวนเงินต้นที่ยอดปัจจุบัน ส่วนดอกเบี้ยที่พักไว้ 4 เดือน เมื่อครบกำหนดลูกค้าสามารถแบ่งชำระได้ภายใน 24 เดือน เพื่อเป็นการบรรเทาภาระให้กับลูกค้า
“สมมติว่าปัจจุบันจ่ายค่างวดอยู่ 10,000 บาทต่อเดือน แบ่งเป็นเงินต้น 5,000 บาท และ ดอกเบี้ย 5,000 บาท ในส่วนของเงินต้นเมื่อครบ 4 เดือนก็กลับมาชำระตามปกติ ส่วนดอกเบี้ยที่ค้างไว้ 4 เดือน หรือ 20,000 บาท ลูกค้าสามารถแบ่งจ่ายได้ภายใน 24 เดือน โดยจ่ายเกินจากค่างวดปกติ หรือจะจ่ายทั้งหมดในงวดที่ 24 ก็ได้ ถ้ารายได้ลูกค้ากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งจากมาตรการนี้ กระทบสภาพคล่องธนาคารประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่ก็คุ้มค่าในการดูแลลูกค้ากว่า 1 ล้านบัญชี”
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การกำหนดให้ลูกค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ ธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ เข้ามาตรการผ่าน Mobile Application : GHB ALL ด้วยตัวเองนั้น เนื่องจากลูกค้าแต่ละรายมีความต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกัน จึงสามารถเลือกใช้มาตรการที่เหมาะสมกับตนเองได้ ทำให้ทั้ง 4 มาตรการที่ธนาคารจัดทำไปก่อนหน้านี้ได้รับผลตอบรับดี มีลูกค้าเข้าร่วมจำนวนมากทุกมาตรการ
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตรการใดๆ ที่ธนาคารจัดทำ สามารถส่งข้อมูลปัญหาผลกระทบด้านรายได้ที่ท่านได้รับจากกรณีโควิด-19 ผ่าน Mobile Application : GHB ALL โดยธนาคารจะหาแนวทางบรรเทาผลกระทบเฉพาะรายต่อไป
รวมถึงผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรการชดเชยรายได้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท ของกระทรวงการคลังก็มีสิทธิเลือกใช้มาตรการของ ธอส.ได้เช่นกัน”นายฉัตรชัย กล่าว
สำหรับลูกค้าที่เลือกใช้ทั้ง 4 มาตรการของ ธอส. จนถึงวันที่ 10 เม.ย.2563 เวลา 8:00 น. ซึ่งมีจำนวน 170,958 บัญชี คิดเป็นวงเงินกู้ถึง 181,927 ล้านบาทนั้น สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการที่ ธอส. จัดทำมีความสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีความแตกต่างของดอกเบี้ยตามอายุสัญญา แบ่งเป็น
มาตรการที่ 1 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 3 เดือน จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ วงเงินกู้ทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นมาตรการที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ผ่อนชำระมาแล้วเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ใน 3 ของระยะเวลาการผ่อนชำระตามสัญญากู้ เพราะจะมีจำนวนดอกเบี้ยในเงินงวดน้อยกว่าจำนวนเงินที่ไปหักเงินต้น โดยมีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 61,445 ราย วงเงินกู้ 63,891 ล้านบาท
มาตรการที่ 2 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 1 ปี จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน และขยายระยะเวลากู้ออกไปอีก 10 ปี เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่พักชำระเงินต้นแล้วการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้นานสูงสุดอีก 10 ปี
จะทำให้เงินงวดรายเดือนของลูกค้าลดลง เหมาะกับลูกค้าทั้งสถานะบัญชีปกติหรือสถานะบัญชี NPL ที่มีเงินงวดแบ่งเป็นดอกเบี้ยและเงินต้นในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน เมื่อเข้ามาตรการแล้วจะมีเงินงวดให้ผ่อนชำระรายเดือนเหลือประมาณ 50% ของเงินงวดเดิม ซึ่งมีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 52,286 ราย วงเงินกู้ 63,151 ล้านบาท
มาตรการที่ 3 พักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน (กรอบวงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท) เหมาะกับลูกค้าทั้งสถานะบัญชีปกติหรือสถานะบัญชี NPL ที่พ้นการใช้ดอกเบี้ยตามโปรโมชั่นในช่วง 2-3 ปีแรกของสัญญากู้
จะทำให้สามารถชำระเงินงวดด้วยดอกเบี้ยที่ลดลง โดยทุก ๆ วงเงินกู้ 1 ล้านบาท จากเคยผ่อนชำระ 6,600 บาท/เดือน จะลดลงเหลือเพียง 3,400 บาท/เดือน และมีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 42,472 ราย วงเงินกู้ 40,886 ล้านบาท
มาตรการที่ 4 ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือนเป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้าที่อยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหรืออยู่ในสถานะกฎหมาย
โดยหลังจากเปิดให้แจ้งความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ล่าสุด ณ วันที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 8:00 น. มีลูกค้าใช้มาตรการแล้วจำนวน 14,755 ราย วงเงินกู้ 13,998 ล้านบาท โดยมีกรอบวงเงินสินเชื่อรวมกับมาตรการที่ 3 จำนวน 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถดาวน์โหลด Application : GHB ALL ได้ที่ App Store หรือ Play Store สอบถามรายละเอียดหรือติดตามข้อมูลข่าวสารของธนาคารเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th